บทความนี้ จะมานำเสนอเกี่ยวกับ วิธีการเช็กทะเบียนรถ เพื่อตรวจสอบข้อมูล ของผู้ครอบครองรถ กับกรมการขนส่งทางบก แบบถูกต้องตามกฎหมาย กันนะคะ มาดูพร้อมกันเลยค่ะ ว่ามีขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง
โดยปกติแล้วไม่สามารถตรวจสอบประวัติรถยนต์ด้วยตัวเองได้นะคะ เพราะโดยทั่วไปแล้วสำนักงานขนส่งจะไม่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงข้อมูลทะเบียนรถ เว้นแต่การขอตรวจสอบชื่อ และข้อมูลผู้ครอบครองรถนั้น จะต้องเป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวข้อง มีส่วนได้ส่วนเสียกับข้อมูลที่ยื่นตรวจสอบ ยกตัวอย่าง เช่น เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาคดีความ แต่หากเป็นกรณีอื่นๆ นายทะเบียนจะพิจารณาอนุญาตเป็นรายๆ ไปค่ะ ซึ่งอาจจะได้รับอนุญาต หรือไม่ได้รับอนุญาตก็แบ้วแต่นะคะ ขึ้นอยู่กับเหตุผล และความจำเป็นเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลนั่นเองค่ะ
ในกรณีเจ้าหน้าที่ เปิดเผยข้อมูลทะเบียนรถจากการให้บริการรับเช็กทะเบียนรถ หรือรับสืบทะเบียนรถโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จะมีความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มีโทษทั้งจำและปรับอีกด้วยนะคะ
เอกสารหลักฐานประกอบการตรวจสอบการจดทะเบียนรถยนต์
ผู้ยื่นคำขอตรวจสอบทะเบียนรถ ต้องยื่นเอกสารหลักฐานแสดงความเกี่ยวข้องหรือแสดงวัตถุประสงค์ของการตรวจสอบข้อมูลประกอบการพิจารณา ต้องมีเอกสารแสดงเป็นหลักฐานเพื่อขอตรวจสอบประวัติรถ ซึ่งมีรายละเอียดเอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชน (แบบจริงและสำเนา) พร้อมลายมือชื่อรับรองสำเนาที่ถูกต้องและครบถ้วน
- หนังสือรับรองนิติบุคคล (แบบจริงและสำเนา) พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนของผู้มีอำนาจลงนามทุกคน หากมีสำเนาต้องมีลายมือชื่อผู้มีอำนาจลงนามและตรานิติบุคคลบนทุกฉบับ (ถ้ามี)
- หนังสือนำส่งหรือคำขอตรวจสอบเอกสารจากหน่วยงานของรัฐ (แบบจริง) กรณีเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบหรือขอสำเนาเอกสาร หน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลที่มีอำนาจตามกฎหมายเป็นผู้ขอ
- สำเนาหนังสือแต่งตั้งเป็นตัวแทนของบริษัทประกันภัย พร้อมลายมือชื่อรับรองสำเนาที่ถูกต้องและครบถ้วน กรณีบริษัทประกันภัยเป็นผู้ขอตรวจสอบหรือขอสำเนาเอกสาร
- สำเนาใบอนุญาตทนายความหรือสำเนาใบแต่งทนาย กรณีทนายความเป็นผู้ขอตรวจสอบหรือขอสำเนาเอกสาร และสำเนาบันทึกประจำวันที่เกี่ยวกับคดีของสถานีตำรวจที่เกิดเหตุ (แบบจริงและสำเนา) พร้อมลายมือชื่อรับรองสำเนาที่ถูกต้องและครบถ้วน
ค่าธรรมเนียม
หลังจากนั้น ทางสำนักงานก็จะดำเนินการตรวจสอบคำขอและเอกสาร โดยใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อเสร็จเรียบร้อยก็จะเข้าสู่ การชำระเงินเป็นขั้นตอนถัดไป โดยมีรายละเอียดค่าธรรมเนียมดังนี้
- ค่าคำขอฉบับละ 5 บาท
- ค่าขอค้นเอกสาร ครั้งละ 50 บาท (รถจักรยานยนต์ ครั้งละ 10 บาท, รถอื่น นอกจากรถจักรยานยนต์ ครั้งละ 50 บาท)
- ค่ารับรองสำเนา แผ่นละ 20 บาท
ดังนั้น ใครที่คิดว่าเห็นทะเบียนรถแล้วจะสามารถสืบหาชื่อเจ้าของรถได้ง่าย ๆ เพียงแค่นั่งหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตนั้น คงต้องเปลี่ยนความคิดใหม่แล้วนะคะ ถ้าไม่ลงไปยื่นเรื่องที่ขนส่งด้วยตัวเองแล้ว ก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าใครเป็นเจ้าของรถคันนั้นอย่างแน่นอนค่ะ
ขั้นตอนการเช็คทะเบียนรถ
1. รับคำขอ
2. ตรวจสอบหลักฐานประกอบคำขอ
3. พิจารณา
4. อนุมัติ
5. รับชำระค่าธรรมเนียม
6. ออกใบเสร็จรับเงิน
7. รับรองสำเนาข้อมูลทะเบียนรถหรือสำเนาต้นทะเบียนรถ
สามารถติดต่อสอบถามและขอข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเช็คทะเบียนรถ ได้ที่
- กรมการขนส่งทางบก สำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ 5 (จตุจักร) โทรศัพท์ 0-2271-8888
- สายด่วนศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน โทรศัพท์ 1584
- สายด่วยศูนย์บริการประชาชน สานักปลัดสานักนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์ 1111
สำหรับบริการค้นหาชื่อเจ้าของรถ ด้วยโปรแกรมตรวจสอบทะเบียนรถ เช็คป้ายทะเบียนรถที่มีเปิดรับจ้างในเว็บไซต์ต่างๆ นั้น ก็ควรที่จะดูให้ดีก่อนใช้บริการด้วยนะคะ เพราะโปรแกรมเช็คป้ายทะเบียนรถ หากถูกตรวจสอบ และดำเนินคดีขึ้นมา คุณเองก็อาจจะถูกข้อหาการละเมิดข้อมูลโดยมิชอบไปด้วยนั่นเองค่ะ ดังนั้น หากเป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากรถที่ต้องการตรวจสอบจริง ควรเข้าสู่การดำเนินเรื่องอย่างถูกต้อง ให้เป็นไปตามกฎหมายจะดีที่สุดนะคะ